หลักการออกแบบห้องนอนสไตล์โมเดิร์นลอฟท์
จุดเริ่มต้นของสไตล์ลอฟท์ (Loft) เริ่มเกิดขึ้นเมื่อสิ้นสุดยุคสงครามโลกครั้งที่2 (ช่วงปี 1939-1945) ผลพวงจากสงครามในยุคนั้น ก่อเกิดความตกต่ำทางเศรษฐกิจ โรงงานอุตอุตสาหกรรมหลายแห่งปิดตัวลงเป็นจำนวนมาก อาคารโรงงานและโกดังหลายๆแห่งจึงถูกทิ้งล้าง ประกอบกับการที่บ้านเมืองยังไม่ฟื้นฟู ทำให้ราคาที่อยู่อาศัยในยุคนั้นมีราคาสูงมากขึ้นเรื่อยๆ จึงเกิดแนวคิดในการประยุกต์อาคารของโรงงานอุตสาหกรรมที่ถูกทิ้งล้างเหล่านี้ ให้กลายเป็นที่พักอาศัย เพราะการใช้วัสดุดั้งเดิมของโครงสร้างอาคารที่มีอยู่ ทำให้สามารถประหยัดงบประมาณในการตกแต่งและก่อสร้างได้เป็นอย่างมาก จากจุดเด่นในแง่ของฟังก์ชันและความประหยัด เกิดเป็นความโดดเด่นทางด้านสไตล์ที่ได้รับความนิยมมาจนถึงปัจจุบันนี้
ด้วยความที่โครงสร้างของอาคารของโกดัง มักนิยมใช้เหล็ก อิฐ หรือปูน เป็นวัสดุหลักในการตกแต่งหรือใช้เป็นโครงสร้าง จึงทำให้อาคารเหล่านี้มีความแข็งแรง และมีลักษณะโปร่งโล่ง ดังนั้น ภาพจำของสไตล์ลอฟท์ที่คุ้นเคยกันดี คือรูปแบบของอาคารที่มีความโปร่ง เพดานสูง เน้นการโชว์พื้นผิววัสดุหรือโครงสร้างอาตารต่างๆ เช่น โครงสร้างเหล็ก ท่อเหล็ก ผนังอิฐ ปูนเปลือย เพดานแบบเปิดให้เห็นงานระบบต่างๆ ตัวอย่างของย่านที่มีกลิ่นอายความเป็นสไตล์ลอฟท์เห็นได้ชัดเจนมากที่สุดนั่นก็คือย่านโซโห ของเมืองนิวยอร์ก ประเทศสหรัฐอเมริกา
ย่านโซโห (So Ho) เมืองนิวยอร์ก ประเทศสหรัฐอเมริกา เป็นย่านที่มีสถาปัตยกรรมเหล็กหล่อซึ่งมีความรุ่งเรืองในยุคปฏิวัติอุตสาหกรรมราวศตวรรษที่ 19 กล่าวคือเป็นย่ายที่มีรูปแบบอาคารแบบโกดังหรือโรงงานเป็นจำนวนมาก ตั้งอยู่ทางตอนใต้ของถนนฮูสตัน มิดทาวน์ตอนล่าง มีรูปร่างเป็นสี่เหลี่ยมผืนผ้า ประกอบด้วยอาคาร 500 อาคาร 26 บล็อก ซึ่งในช่วงปี 1940s โรงงานแถบย่าน SoHo เริ่มถูกรีโนเวทเปลี่ยนโรงงานเก่าให้เป็นที่พักอาศัยเป็นที่แรกๆ ด้วยความที่ลักษณะอาคารที่มีเพดานสูง มีความเปิดโล่ง และโครงสร้างต่างๆ เหมาะกับการนำมาปรับปรุงให้มีความเป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัว ไม่ใช่แค่ในแง่ของที่พักอาศัยเท่านั้น แต่ถูกปรับปรุงเป็นอาคารร้านค้าต่างๆ หรือสตูดิโอที่สามารถเป็นที่พักอาศัยไปในตัว